ในประเทศไทย ฉันจะดำเนินคดีแพ่งทางการค้าหลังจากที่ผู้ส่งมอบละเมิดสัญญาและเรียกร้องค่าชดเชยได้อย่างไร

ใน ประเทศไทย
อัปเดตล่าสุด: Nov 11, 2025
บริษัทของเราทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับผู้ขายชาวไทย โดยผู้ขายส่งมอบล่าช้าและไม่เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพที่ตกลงไว้ ทางเลือกที่ควรพิจารณา ได้แก่ การดำเนินคดีในศาล หรือการพิจารณาอนุญาโตตุลาการ โดยหลักทั่วไประยะเวลาที่คาดว่าจะใช้ในการดำเนินคดีศาลอยู่ที่หลายเดือนถึงหลายปี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของข้อพิพาทและภาระงานของศาล ส่วนอนุญาโตตุลาการมักมีระยะเวลาสั้นกว่าศาล แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าบ้าง ทั้งค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการและค่าทนายความ ค่าใช้จ่ายโดยรวมขึ้นอยู่กับมูลค่าความขัดแย้ง ความยากง่ายของคดี และจำนวนครั้งที่ต้องมีการประชุมหรือพิจารณา การไกล่เกลี่ยมักเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณาก่อนยื่นฟ้อง เพราะสามารถช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย รวมถึงรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจไว้ได้ หากสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ก็จะช่วยให้ปัญหาตรงไปตรงมามากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามควรปรึกษาทนายความเพื่อประเมินข้อเท็จจริงและความเหมาะสมของแต่ละแนวทางก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้าย

คำตอบจากทนายความ

W Law International (Thailand)

W Law International (Thailand)

Nov 11, 2025
คำตอบที่ดีที่สุด

การส่งมอบล่าช้าและปัญหาด้านคุณภาพสามารถถือเป็นการละเมิดสัญญา บริษัทของท่านควรมีสิทธิ์ยื่นฟ้องคดีกับผู้จัดหา ท่านจำเป็นต้องพิสูจน์ข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาซื้อขาย วันส่งมอบ สภาพคุณภาพเมื่อส่งมอบ และความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเนื่องจากความล่าช้าและคุณภาพไม่เป็นไปตามที่ตกลง

W Law International (Thailand)

W Law International (Thailand)

Nov 11, 2025

การส่งมอบล่าช้าและปัญหาคุณภาพสามารถถือเป็นการละเมิดข้อตกลง บริษัทของท่านควรมีสิทธิ์ยื่นฟ้องอีกฝ่ายผู้ขาย ท่านต้องพิสูจน์ข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาซื้อขาย วันส่งมอบ สภาพคุณภาพ ณ เวลาการส่งมอบ และความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงอันเป็นผลจากความล่าช้าและคุณภาพที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด

GPS Legal

GPS Legal

Nov 11, 2025

ด้านล่างเป็นภาพรวมเชิงโครงสร้างของทางเลือกในประเทศไทยสำหรับการผิดสัญญาของผู้จัดหา (ส่งล่าช้า + คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน) รวมถึงกระบวนการ ระยะเวลา ประเมินค่าใช้จ่าย และกลยุทธ์เชิงปฏิบัติการ

ทางเลือกในการระงับข้อพิพาทที่มีในประเทศไทย

1) ดำเนินคดีศาล (ศาลไทย)

อำนาจศาล: ศาลไทยมีอำนาจพิจารณาสำหรับสัญญากับคู่สัญญาไทย เว้นแต่สัญญาจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น (เช่น ข้อกำหนดอนุญาโตตุลาการ)

กระบวนการ

  • ฟ้องร้อง → ศาลกำหนดวันพิจารณา → ระยะเวลาพิสูจน์หลักฐาน (เอกสาร + พยาน) → คำพิพากษา → อุทธรณ์ได้

ระยะเวลา

  • ศาลชั้นต้น: ประมาณ 12–24 เดือน
  • ศาลอุทธรณ์: +12–18 เดือน (หากมีการอุทธรณ์)
  • ศาลฎีกา: +12–24 เดือน (เฉพาะกรณีคำถามทางกฎหมาย; อาจต้องขออนุญาตก่อน)

รวมทั้งสิ้นหากอุทธรณ์เต็มที่: 2.5–5 ปี

ประมาณค่าใช้จ่าย

  • ค่าธรรมเนียมยื่นฟ้องศาล: ประมาณ 2% ของจำนวนเงินที่เรียกร้อง (สูงสุดประมาณ 200,000 บาท)
  • ค่าทนาย:
    • ข้อพิพาทขนาด SME (1–10 ล้านบาท): ประมาณ 300,000–1,500,000 บาท
    • ข้อพิพาทการค้าขนาดใหญ่ (>10 ล้านบาท): ประมาณ 1.5–5 ล้านบาทขึ้นไป

ข้อดี / ข้อเสีย

ข้อดีข้อเสีย
ระบบที่จัดตั้งแล้วช้า มีหลายขั้นตอนอุทธรณ์
บังคับใช้ได้แข็งแรงต้องใช้ภาษาไทย เป็นทางการ
เหมาะกับคำร้องมูลค่าสูงเอกสาร/หลักฐานต่างประเทศมีข้อจำกัด

2) อนุญาโตตุลาการ (หากสัญญามีข้อกำหนด)

กฎทั่วไป: THAC (ศูนย์อนุญาโตตุลาการประเทศไทย), TAI (สถาบันอนุญาโตตุลาการไทย), SIAC (หากเป็นสัญญาระหว่างประเทศ)

ระยะเวลา

  • ประมาณ 12–18 เดือน สำหรับคำตัดสินสุดท้าย (เร็วกว่าศาล)
  • มีข้อจำกัดในการอุทธรณ์/เพิกถอน

ค่าใช้จ่าย

รายการประมาณ
ค่าธรรมเนียมยื่นคำร้อง/บริหาร50,000 – 400,000+ บาท ขึ้นกับจำนวนเงินเรียกร้อง
ค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการ150,000 – หลายล้านบาท
ค่าทนาย500,000 บาทขึ้นไป ขึ้นกับความซับซ้อน
ค่าบริการแปล (หากจำเป็น)50,000–300,000 บาท

อนุญาโตตุลาการมักมีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าสูงกว่า แต่มีความแน่นอนและเป็นความลับมากกว่า

ข้อดี / ข้อเสีย

ข้อดีข้อเสีย
เร็วกว่า เป็นความลับค่าทนาย/บริหารสูงกว่า
ผู้พิจารณาผู้เชี่ยวชาญข้อจำกัดในการอุทธรณ์
บังคับใช้ได้ระหว่างประเทศ (อนุสัญญานิวยอร์ก) 

การไกล่เกลี่ยในประเทศไทย

การไกล่เกลี่ยได้รับการส่งเสริมเพิ่มขึ้นโดยศาลไทยและหน่วยงาน (THAC, TAI)

เมื่อใดควรใช้

  • ความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ต้องการรักษาไว้
  • ข้อพิพาทที่มีมูลค่าเล็ก/กลาง
  • ข้อพิพาทเกี่ยวกับคุณภาพที่สามารถประนีประนอมได้ (เช่น ซ่อมแซม ส่วนลด เปลี่ยนสินค้า)

ค่าใช้จ่าย

  • ไกล่เกลี่ยเอกชน: 30,000 – 200,000+ บาท (ขึ้นกับระดับความเชี่ยวชาญของผู้ไกล่เกลี่ย)
  • ไกล่เกลี่ยศาล: มักมีค่าใช้จ่ายต่ำหรือฟรีเมื่อยื่นฟ้องแล้ว

โอกาสสำเร็จ

  • การไกล่เกลี่ยสอดคล้องกับวัฒนธรรมธุรกิจไทย มักมีประสิทธิภาพ

แนะนำ: ใช่ — สามารถทำได้ก่อนยื่นฟ้อง

กลยุทธ์ปฏิบัติแนะนำ

  1. ออกหนังสือทวงถามอย่างเป็นทางการ (ภาษาไทย + อังกฤษหากจำเป็น)
    • อ้างการผิดสัญญา ขอการแก้ไข/ชดเชย กำหนดเวลา
  2. เสนอการไกล่เกลี่ย
  3. หากไม่สามารถตกลงได้:
    • ตรวจดูข้อกำหนดข้อพิพาทในสัญญา (ศาล vs อนุญาโตตุลาการ)
    • ประเมินมูลค่าคำร้องเทียบกับต้นทุน/ความไวต่อเวลา
  4. ดำเนินการอนุญาโตตุลาการหรือฟ้องศาล
  5. พิจารณามาตรการชั่วคราว (พบได้ยากแต่เป็นไปได้) หากทรัพย์สินอยู่ในความเสี่ยง

ข้อพิจารณาเพิ่มเติม

  • หลักฐาน: เงื่อนไขการส่งมอบ รายงานทดสอบ QC จดหมายโต้ตอบ ใบสั่งซื้อ สัญญา
  • ข้อกำหนดค่าปรับล่วงหน้า: บังคับใช้ได้หากสมเหตุสมผล (ตรวจสัญญา)
  • ข้อกำหนดกฎหมายที่ใช้บังคับ: หากเลือกกฎหมายต่างประเทศ ศาลไทยจะยังคงใช้หลักนโยบายสาธารณะของไทย
  • ภาษา: คำฟ้องศาลต้องเป็นภาษาไทย; อนุญาโตตุลาการสามารถใช้สองภาษาได้
  • การบังคับใช้: ศาลไทยบังคับใช้คำพิพากษาศาลและคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ (อนุสัญญานิวยอร์ก)

สรุปตามหลักการทั่วไป

ทางเลือกเวลาค่าใช้จ่ายเหมาะเมื่อ
ไกล่เกลี่ย1–3 เดือน30,000–200,000 บาทต้องการรักษาความสัมพันธ์ / ได้ผลเร็ว
ศาลไทย12–24 เดือน ศาลชั้นต้น300,000–5 ล้านบาท+สัญญามาตรฐาน ประหยัดต้นทุน
อนุญาโตตุลาการ12–18 เดือน500,000 บาท+มูลค่าสูง / ข้ามพรมแดน / ต้องการความลับ

บทสรุป

  • ควรลองไกล่เกลี่ยก่อน — ต้นทุนต่ำ มีประสิทธิภาพทางวัฒนธรรม
  • ศาล ถูกกว่าจากมุมมองต้นทุนแต่ช้าและอาจมีอุทธรณ์
  • อนุญาโตตุลาการ เร็วกว่าและมีความแน่นอนมากกว่าแต่มีค่าครองชีพสูงกว่า

กรุณาติดต่อ GPS Legal ได้ที่ [email protected] พร้อมอ้างถึงโพสต์นี้

GPS Legal

GPS Legal

GPS Legal

Nov 11, 2025

ต่อไปนี้เป็นภาพรวมเชิงโครงสร้างเกี่ยวกับทางเลือกของท่านในประเทศไทยสำหรับการละเมิดของผู้จัดหา (การจัดส่งล่าช้า + คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน) รวมถึงกระบวนการ เวลาโดยประมาณ ค่าใช้จ่ายที่คาดการณ์ และกลยุทธ์ปฏิบัติที่เป็นไปได้

ทางเลือกการระงับข้อพิพาทที่มีอยู่ในประเทศไทย

1) ดำเนินคดีต่อศาล (ศาลไทย)

เขตอำนาจศาล: ศาลไทยมีเขตอำนาจสำหรับสัญญาที่ทำกับคู่สัญญาไทย เว้นแต่สัญญาจะระบุไว้ต่างหาก (เช่น ข้อผูกพันอนุญาโตตุลาการ)

กระบวนการ

  • ยื่นคำร้อง → ศาลกำหนดวันพิจารณา → ระยะเวลาการพิสูจน์หลักฐาน (เอกสาร + พยานบุคคล) → คำพิพากษา → อุทธรณ์หากจำเป็น

ระยะเวลา

  • ศาลชั้นต้น: ประมาณ 12–24 เดือน
  • ศาลอุทธรณ์: เพิ่มอีก 12–18 เดือน (หากมีการอุทธรณ์)
  • ศาลฎีกา: เพิ่มอีก 12–24 เดือน (เฉพาะกรณีมีประเด็นทางกฎหมาย; อาจต้องขออนุญาต)

รวมทั้งหมดหากอุทธรณ์ครบทุกชั้น: 2.5–5 ปี

ประมาณการค่าใช้จ่าย

  • ค่าธรรมเนียมยื่นฟ้องศาล: ประมาณ 2% ของจำนวนเงินที่เรียกร้อง (สูงสุดประมาณ 200,000 บาท)
  • ค่าทนายความ:
    • ข้อพิพาทขนาด SME (1 ล้านบาท–10 ล้านบาท): ประมาณ 300,000–1,500,000 บาท
    • ข้อพิพาททางการค้าที่มีมูลค่ามากกว่า (>10 ล้านบาท): ประมาณ 1.5 ล้านบาท–5 ล้านบาทขึ้นไป

ข้อดี / ข้อเสีย

ข้อดีข้อเสีย
ระบบที่มีการยอมรับช้า มีหลายชั้นการอุทธรณ์
บังคับใช้ได้เข้มแข็งใช้ภาษาไทย เป็นทางการ
เหมาะสำหรับเรียกร้องมูลค่าสูงเอกสาร/คำรับรองจากต่างประเทศ มีขั้นตอนยุ่งยาก

2) อนุญาโตตุลาการ (หากสัญญามีข้อผูกพันอนุญาโตตุลาการ)

กฎเกณฑ์ที่ใช้บ่อย: THAC (ศูนย์อนุญาโตตุลาการไทย), TAI (สถาบันอนุญาโตตุลาการไทย), SIAC (หากเป็นสัญญาระหว่างประเทศ)

ระยะเวลา

  • ประมาณ 12–18 เดือน สำหรับคำตัดสินสุดท้าย (เร็วกว่าศาล)
  • มีพื้นฐานจำกัดสำหรับการอุทธรณ์/เพิกถอน

ค่าใช้จ่าย

รายการประมาณการ
ค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอ/บริหาร50,000 – 400,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเรียกร้อง
ค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการ150,000 บาท – หลายล้านบาท
ค่าทนายความ500,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความซับซ้อน
ค่าการแปล (หากจำเป็น)50,000–300,000 บาท

อนุญาโตตุลาการมักมีต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่า แต่มีความแน่นอนและเป็นความลับมากกว่า

ข้อดี / ข้อเสีย

ข้อดีข้อเสีย
เร็วกว่า เป็นความลับค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย/บริหารสูงกว่า
อนุญาโตตุลาการผู้เชี่ยวชาญมีการอุทธรณ์จำกัด
บังคับใช้ได้ในต่างประเทศ (อนุสัญญานิวยอร์ก) 

การไกล่เกลี่ยในประเทศไทย

การไกล่เกลี่ยได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง โดยศาลและสถาบันไทย (THAC, TAI)

เมื่อใดควรใช้

  • ความสัมพันธ์ทางการค้าที่ท่านต้องการรักษาไว้
  • ข้อพิพาทมูลค่าต่ำถึงกลาง
  • ข้อพิพาทด้านคุณภาพที่สามารถประนีประนอมได้ (เช่น การซ่อมแซม ส่วนลด การเปลี่ยนสินค้า)

ค่าใช้จ่าย

  • การไกล่เกลี่ยภาคเอกชน: 30,000 – 200,000 บาทขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับอาวุโสของผู้ไกล่เกลี่ย)
  • การไกล่เกลี่ยที่ศาลจัดไว้: มักมีต้นทุนต่ำหรือฟรี เมื่อดำเนินคดีแล้ว

โอกาสประสบความสำเร็จ

  • การไกล่เกลี่ยสอดคล้องกับวัฒนธรรมธุรกิจไทย; มักได้ผลดี

คำแนะนำ: ใช่ — สามารถทำได้ก่อนยื่นฟ้อง

กลยุทธ์ปฏิบัติที่แนะนำ

  1. ออกหนังสือทวงถามอย่างเป็นทางการ (ภาษาไทย + ภาษาอังกฤษหากจำเป็น)
    • ระบุการละเมิด ขอให้แก้ไข/ชดเชย กำหนดเส้นตาย
  2. เสนอการไกล่เกลี่ย
  3. หากไม่สามารถยุติได้:
    • ตรวจสอบข้อกำหนดการระงับข้อพิพาทในสัญญา (ศาล vs อนุญาโตตุลาการ)
    • ประเมินขนาดคดีเทียบกับต้นทุน/ความไวด้านเวลา
  4. ดำเนินการต่อในรูปแบบอนุญาโตตุลาการหรือศาล
  5. พิจารณามาตรการชั่วคราว (พบได้น้อยแต่เป็นไปได้) หากทรัพย์สินตกอยู่ในความเสี่ยง

ประเด็นเพิ่มเติมที่ควรพิจารณา

  • พยานหลักฐาน: ข้อตกลงการส่งมอบ รายงานการทดสอบควบคุมคุณภาพ การติดต่อ เอกสารสั่งซื้อ สัญญา
  • ข้อกำหนดค่าปรับล่วงหน้า: บังคับใช้ได้หากสมเหตุสมผล (ตรวจสอบสัญญา)
  • ข้อกำหนดกฎหมายที่ใช้บังคับ: หากเลือกใช้กฎหมายต่างประเทศ ศาลไทยยังคงใช้ระเบียบสาธารณะของไทย
  • ภาษา: คำฟ้องศาลไทยต้องใช้ภาษาไทย; อนุญาโตตุลาการสามารถสองภาษาได้
  • การบังคับใช้: ศาลไทยบังคับใช้ทั้งคำพิพากษาศาลและคำพิพากษาอนุญาโตตุลาการ (อนุสัญญานิวยอร์ก)

สรุปโดยยึดหลักง่ายๆ

ทางเลือกเวลาค่าใช้จ่ายเหมาะเมื่อ
การไกล่เกลี่ย1–3 เดือน30,000–200,000 บาทรักษาความสัมพันธ์ / ผลลัพธ์รวดเร็ว
ศาลไทย12–24 เดือน ระดับแรก300,000–5 ล้านบาทขึ้นไปสัญญาทั่วไป เน้นความคุ้มต้นทุน
อนุญาโตตุลาการ12–18 เดือน500,000 บาทขึ้นไปมูลค่าสูง / ข้ามพรมแดน / ต้องการความลับ

สรุปท้าย

  • ลองใช้การไกล่เกลี่ยก่อน — ต้นทุนต่ำ มีประสิทธิภาพด้านวัฒนธรรม
  • ศาล มีต้นทุนต่ำกว่าแต่ช้ากว่า และอาจมีการอุทธรณ์
  • อนุญาโตตุลาการ เร็วกว่า มีความแน่นอนมากกว่า แต่ต้นทุนสูงกว่า

หากต้องการ โปรดติดต่อ GPS Legal ที่ [email protected] และอ้างอิงโพสต์นี้

GPS Legal

GPS Legal

GPS Legal

Nov 11, 2025

ด้านล่างเป็นภาพรวมเชิงโครงสร้างของตัวเลือกทางเลือกในประเทศไทยสำหรับกรณีผู้จัดหาละเมิดต่อสัญญา (การส่งมอบล่าช้า + คุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน) รวมถึงกระบวนการ ระยะเวลาโดยประมาณ ต้นทุนที่ประเมิน และกลยุทธ์เชิงปฏิบัติ

ทางเลือกในการระงับข้อพิพาทที่มีในประเทศไทย

1) การดำเนินคดีต่อศาล (ศาลไทย)

เขตอำนาจศาล: ศาลไทยมีเขตอำนาจสำหรับสัญญากับคู่สัญญาไทย เว้นแต่สัญญาจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น (เช่น ข้อกำหนดอนุญาโตตุลาการ)

กระบวนการ

  • ยื่นคำฟ้อง → ศาลนัดไต่สวน → ช่วงเวลาแสดงพยานหลักฐาน (เอกสาร + การสอบพยาน) → คำพิพากษา → อาจมีการอุทธรณ์

ระยะเวลา

  • ศาลชั้นต้น: ประมาณ 12–24 เดือน
  • ศาลอุทธรณ์: เพิ่ม 12–18 เดือน (หากอุทธรณ์)
  • ศาลฎีกา: เพิ่ม 12–24 เดือน (ในกรณีมีคำถามทางกฎหมายเท่านั้น; อาจต้องได้รับอนุญาต)

รวมทั้งหมดหากอุทธรณ์ถึงที่สุด: 2.5–5 ปี

ประมาณการต้นทุน

  • ค่าธรรมเนียมยื่นฟ้องศาล: ประมาณ 2% ของจำนวนเงินที่เรียกร้อง (จำกัดสูงสุดประมาณ 200,000 บาท)
  • ค่าทนายความ:
    • ข้อพิพาทขนาด SME (1–10 ล้านบาท): ประมาณ 300,000–1,500,000 บาท
    • ข้อพิพาทเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (มากกว่า 10 ล้านบาท): ประมาณ 1.5–5 ล้านบาทขึ้นไป

ข้อดี / ข้อเสีย

ข้อดีข้อเสีย
ระบบที่มั่นคงช้า มีหลายชั้นอุทธรณ์
บังคับใช้เข้มแข็งใช้ภาษาไทย เป็นทางการ
เหมาะสำหรับคำเรียกร้องมูลค่าสูงหลักฐานต่างประเทศ / ระเบียบราชการ

2) อนุญาโตตุลาการ (หากสัญญาระบุข้อกำหนดอนุญาโตตุลาการ)

กฎทั่วไป: THAC (ศูนย์อนุญาโตตุลาการไทย), TAI (สถาบันอนุญาโตตุลาการไทย), SIAC (กรณีสัญญาระหว่างประเทศ)

ระยะเวลา

  • ประมาณ 12–18 เดือน สำหรับคำตัดสินสุดท้าย (เร็วกว่าศาล)
  • พื้นฐานในการอุทธรณ์/เพิกถอนจำกัด

ต้นทุน

รายการประมาณการ
ค่าธรรมเนียมยื่นคำร้อง/บริหาร50,000 – 400,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เรียกร้อง
ค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการ150,000 บาท – หลายล้านบาท
ค่าทนายความ500,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความซับซ้อน
ค่าบริการแปล (หากจำเป็น)50,000–300,000 บาท

อนุญาโตตุลาการมีแนวโน้มจะมีต้นทุนล่วงหน้าสูงกว่า แต่สามารถคาดการณ์ได้และเป็นความลับมากกว่า

ข้อดี / ข้อเสีย

ข้อดีข้อเสีย
เร็วกว่าผลลัพธ์เป็นความลับต้นทุนฝ่ายกฎหมาย/บริหารสูงกว่า
อนุญาโตตุลาการผู้เชี่ยวชาญการอุทธรณ์จำกัด
บังคับใช้ระหว่างประเทศได้ (อนุสัญญา NY) 

การไกล่เกลี่ยในประเทศไทย

การไกล่เกลี่ยได้รับการส่งเสริมเพิ่มขึ้น โดยศาลไทยและหน่วยงานต่างๆ (THAC, TAI)

ควรใช้เมื่อใด

  • ความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์ที่ต้องการรักษาไว้
  • ข้อพิพาทขนาดเล็ก/กลาง
  • ข้อพิพาทคุณภาพที่สามารถหาจุดประนีประนอมได้ (เช่น ซ่อมแซมนผ, ส่วนลด, การเปลี่ยนสินค้า)

ต้นทุน

  • การไกล่เกลี่ยภาคเอกชน: 30,000 – 200,000 บาทขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของผู้ไกล่เกลี่ย)
  • การไกล่เกลี่ยที่ศาลเชิญเข้าร่วม: มักมีต้นทุนต่ำหรือฟรี เมื่อยื่นฟ้องแล้ว

โอกาสประสบความสำเร็จ

  • การไกล่เกลี่ยสอดคล้องกับแนวปฏิบัติธุรกิจของไทย; มักได้ผล

ควรปฏิบัติ: ใช่ — สามารถใช้ได้ก่อนการฟ้องร้อง

กลยุทธ์เชิงปฏิบัติที่แนะนำ

  1. ออกหนังสือเรียกร้องอย่างเป็นทางการ (ภาษาไทย + อังกฤษหากจำเป็น)
    • อ้างการละเมิด สั่งให้แก้ไข/ชดเชย กำหนดเวลาตอบ
  2. เสนอให้ไกล่เกลี่ย
  3. หากไม่สามารถตกลงกันได้:
    • ตรวจสอบข้อกำหนดข้อพิพาทในสัญญา (ศาล vs อนุญาโตตุลาการ)
    • ประเมินขนาดคำเรียกร้องเทียบกับความไวของต้นทุน/เวลา
  4. ดำเนินการอนุญาโตตุลาการหรือศาล
  5. พิจารณามาตรการชั่วคราว (พบได้น้อย แต่เป็นไปได้) หากทรัพย์สินมีความเสี่ยง

ข้อพิจารณาเพิ่มเติม

  • พยานหลักฐาน: เงื่อนไขการส่งมอบ รายงานการทดสอบ QC การติดต่อสื่อสาร ใบสั่งซื้อ สัญญา
  • ข้อกำหนดค่าปรับล่วงหน้า: บังคับใช้ได้หากสมเหตุสมผล (ตรวจสอบในสัญญา)
  • ข้อกำหนดกฎหมายที่ใช้บังคับ: หากเลือกใช้กฎหมายต่างประเทศ ศาลไทยยังคงใช้หลักนิติธรรมของไทย
  • ภาษา: เอกสารฟ้องศาลไทยต้องเป็นภาษาไทย; การอนุญาโตตุลาการสามารถใช้สองภาษาได้
  • การบังคับใช้: ศาลไทยบังคับใช้ทั้งคำพิพากษาศาลและคำพิพากษาอนุญาโตตุลาการ (อนุสัญญา NY)

สรุปโดยหลักเกณฑ์คร่าวๆ

ตัวเลือกระยะเวลาต้นทุนเหมาะเมื่อ
ไกล่เกลี่ย1–3 เดือน30,000–200,000 บาทต้องการรักษาความสัมพันธ์ / ได้ผลลัพธ์รวดเร็ว
ศาลไทย12–24 เดือน ศาลชั้นต้น300,000–5 ล้านบาทขึ้นไปสัญญามาตรฐาน, ความคุ้มค่าของต้นทุน
อนุญาโตตุลาการ12–18 เดือน500,000 บาทขึ้นไปมูลค่าสูง / ข้ามพรมแดน / ต้องการความลับ

สรุป

  • ควรลองไกล่เกลี่ยก่อน — ต้นทุนต่ำ สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย
  • ศาล ถูกกว่าแต่ช้า และอาจมีการอุทธรณ์
  • อนุญาโตตุลาการ รวดเร็วและคาดการณ์ได้มากกว่า แต่ต้นทุนสูงกว่า

สามารถติดต่อ GPS Legal ที่ [email protected] และอ้างถึงโพสต์นี้

GPS Legal

GPS Legal

GPS Legal

Nov 11, 2025

ด้านล่างนี้เป็นภาพรวมอย่างมีโครงสร้างของทางเลือกที่มีอยู่ในประเทศไทยกรณีผู้จัดหาละเมิดสัญญา (ส่งมอบล่าช้า + คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน) รวมถึงกระบวนการ ระยะเวลา ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ และกลยุทธ์เชิงปฏิบัติ

ทางเลือกในการระงับข้อพิพาทที่มีอยู่ในประเทศไทย

1) ดำเนินคดีทางศาล (ศาลไทย)

อำนาจศาล: ศาลไทยมีอำนาจพิจารณาในสัญญาที่คู่สัญญาเป็นคนไทย เว้นแต่สัญญาจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น (เช่น ข้อกำหนดอนุญาโตตุลาการ)

กระบวนการ

  • ยื่นฟ้อง → ศาลนัดพิจารณา → ระยะเวลาพิสูจน์หลักฐาน (เอกสาร + พยานบุคคล) → คำพิพากษา → อุทธรณ์ตามความจำเป็น

ระยะเวลา

  • ศาลชั้นต้น: ประมาณ 12–24 เดือน
  • ศาลอุทธรณ์: เพิ่มอีก 12–18 เดือน (หากอุทธรณ์)
  • ศาลฎีกา: เพิ่มอีก 12–24 เดือน (เฉพาะประเด็นทางกฎหมาย; อาจต้องได้รับอนุญาตให้ฎีกา)

รวมทั้งสิ้นหากอุทธรณ์ครบทุกชั้น: 2.5–5 ปี

ประมาณค่าใช้จ่าย

  • ค่าธรรมเนียมยื่นฟ้อง: ประมาณ 2% ของจำนวนเงินที่เรียกร้อง (สูงสุดประมาณ 200,000 บาท)
  • ค่าทนายความ:
    • ข้อพิพาทขนาด SME (1 ล้านบาท–10 ล้านบาท): ประมาณ 300,000–1,500,000 บาท
    • ข้อพิพาทการค้าขนาดใหญ่ (>10 ล้านบาท): ประมาณ 1.5 ล้าน–5 ล้าน+ บาท

ข้อดี / ข้อเสีย

ข้อดีข้อเสีย
ระบบที่มีการใช้งานมายาวนานล่าช้า มีหลายชั้นอุทธรณ์
การบังคับใช้เข้มแข็งใช้ภาษาไทย เป็นทางการ
เหมาะสำหรับคำเรียกร้องมูลค่าสูงยุ่งยากในการนำเสนอพยานหลักฐาน/ข้อจำกัดของต่างชาติ

2) อนุญาโตตุลาการ (หากสัญญาระบุข้อกำหนดอนุญาโตตุลาการ)

กฎที่ใช้โดยทั่วไป: THAC (ศูนย์อนุญาโตตุลาการแห่งประเทศไทย), TAI (สถาบันอนุญาโตตุลาการไทย), SIAC (หากเป็นสัญญาระหว่างประเทศ)

ระยะเวลา

  • ประมาณ 12–18 เดือน สำหรับคำตัดสินขั้นสุดท้าย (เร็วกว่าศาล)
  • มีข้อจำกัดในการอุทธรณ์/เพิกถอนคำตัดสิน

ค่าใช้จ่าย

รายการประมาณ
ค่าธรรมเนียมยื่นคำร้อง/บริหาร50,000 – 400,000+ บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เรียกร้อง
ค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการ150,000 บาท – หลายล้าน
ค่าทนายความ500,000 บาท ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความซับซ้อน
ค่าการแปล (หากจำเป็น)50,000–300,000 บาท

อนุญาโตตุลาการมักมีต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่า แต่มีความแน่นอนและเป็นส่วนตัวมากกว่า

ข้อดี / ข้อเสีย

ข้อดีข้อเสีย
รวดเร็ว เป็นความลับต้นทุนทางกฎหมาย/บริหารสูงกว่า
ผู้อนุญาโตตุลาการผู้เชี่ยวชาญจำกัดการอุทธรณ์
บังคับใช้ได้ระดับนานาชาติ (อนุสัญญานิวยอร์ก) 

การไกล่เกลี่ยในประเทศไทย

การไกล่เกลี่ยได้รับการสนับสนุนมากขึ้นโดยศาลไทยและสถาบันต่างๆ (THAC, TAI)

เมื่อใดควรใช้

  • ความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ต้องการรักษาไว้
  • ข้อพิพาทขนาดเล็กถึงกลาง
  • ข้อพิพาทด้านคุณภาพที่สามารถประนีประนอม (เช่น ซ่อมแซม ส่วนลด ทดแทน)

ค่าใช้จ่าย

  • การไกล่เกลี่ยแบบเอกชน: 30,000 – 200,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของผู้ไกล่เกลี่ย)
  • การไกล่เกลี่ยภายใต้ศาล: มักมีต้นทุนต่ำหรือฟรีหลังจากฟ้องศาลแล้ว

โอกาสความสำเร็จ

  • การไกล่เกลี่ยสอดคล้องกับวัฒนธรรมธุรกิจไทย; มักได้ผล

คำแนะนำ: ใช่ — สามารถใช้ก่อนการยื่นฟ้อง

กลยุทธ์เชิงปฏิบัติที่แนะนำ

  1. ออกหนังสือเรียกร้องอย่างเป็นทางการ (ภาษาไทย + อังกฤษถ้าจำเป็น)
    • อ้างถึงการละเมิด ขอการแก้ไข/ชดเชย กำหนดเส้นตาย
  2. เสนอการไกล่เกลี่ย
  3. หากยังไม่มีการแก้ไข:
    • ตรวจสอบข้อกำหนดข้อพิพาทในสัญญา (ศาล vs อนุญาโตตุลาการ)
    • ประเมินขนาดคำเรียกร้องเทียบกับต้นทุน/ความไวต่อเวลา
  4. ดำเนินการอนุญาโตตุลาการหรือศาล
  5. พิจารณามาตรการชั่วคราว (หายากแต่เป็นไปได้) หากสินทรัพย์ตกอยู่ในความเสี่ยง

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม

  • พยานหลักฐาน: เงื่อนไขการส่งมอบ รายงานทดสอบ QC การสื่อสาร ใบสั่งซื้อ สัญญา
  • ข้อกำหนดค่าปรับล่วงหน้า: บังคับใช้ได้หากสมเหตุสมผล (ตรวจสอบสัญญา)
  • ข้อกำหนดกฎหมายที่ใช้บังคับ: หากเลือกกฎหมายต่างประเทศ ศาลไทยยังคงใช้หลักนิติธรรมของไทย
  • ภาษา: เอกสารยื่นต่อศาลไทยต้องเป็นภาษาไทย; อนุญาโตตุลาการสามารถใช้สองภาษาได้
  • การบังคับใช้: ศาลไทยบังคับใช้ทั้งคำพิพากษาศาลและคำตัดสินอนุญาโตตุลาการ (อนุสัญญานิวยอร์ก)

สรุปข้อสังเกตแบบง่าย

ทางเลือกเวลาต้นทุนเหมาะเมื่อ
การไกล่เกลี่ย1–3 เดือน30,000–200,000 บาทต้องการรักษาความสัมพันธ์/ผลลัพธ์รวดเร็ว
ศาลไทย12–24 เดือน ชั้นต้น300,000–5 ล้าน+ บาทสัญญามาตรฐาน ประหยัดต้นทุน
อนุญาโตตุลาการ12–18 เดือน500,000 บาท ขึ้นไปมูลค่าสูง ข้ามพรมแดน ต้องการความลับ

บทสรุป

  • ลองใช้การไกล่เกลี่ยก่อน — ต้นทุนต่ำได้ผลตามวัฒนธรรม
  • ศาล ถูกกว่าแต่ช้าและอาจอุทธรณ์ได้
  • อนุญาโตตุลาการ เร็วกว่าและแน่นอนกว่า แต่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า

โปรดติดต่อ GPS Legal ได้ที่ [email protected] และอ้างอิงโพสต์นี้

GPS Legal

GPS Legal

GPS Legal

Nov 11, 2025

ด้านล่างคือภาพรวมที่มีโครงสร้างของทางเลือกในประเทศไทยสำหรับกรณีผู้จัดหาละเมิดสัญญา (ส่งล่าช้า + คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน) รวมถึงกระบวนการ ระยะเวลา ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ และกลยุทธ์เชิงปฏิบัติ

ตัวเลือกการระงับข้อพิพาทที่มีในประเทศไทย

1) การดำเนินคดีในศาลไทย

อำนาจศาล: ศาลไทยมีอำนาจสำหรับสัญญากับคู่สัญญาไทย เว้นแต่สัญญาจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น (เช่น ข้อกำหนดอนุญาโตตุลาการ)

กระบวนการ

  • ยื่นคำฟ้อง → ศาลนัดไต่สวน → ระยะเวลาแสดงพยานหลักฐาน (เอกสาร + การไต่สวนพยาน) → พิพากษา → อุทธรณ์ได้

ระยะเวลา

  • ศาลชั้นต้น: ประมาณ 12–24 เดือน
  • ศาลอุทธรณ์: เพิ่มอีก 12–18 เดือน (หากอุทธรณ์)
  • ศาลฎีกา: เพิ่มอีก 12–24 เดือน (เฉพาะกรณีที่มีประเด็นทางกฎหมาย; อาจต้องได้รับอนุญาตก่อน)

รวมทั้งหมดหากอุทธรณ์ครบทุกชั้น: 2.5–5 ปี

ประมาณค่าใช้จ่าย

  • ค่าธรรมเนียมยื่นคำฟ้อง: ประมาณ 2% ของจำนวนค่าเสียหาย (สูงสุดประมาณ 200,000 บาท)
  • ค่าทนายความ:
    • ข้อพิพาทขนาด SME (1–10 ล้านบาท): ประมาณ 300,000–1,500,000 บาท
    • ข้อพิพาทเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (>10 ล้านบาท): ประมาณ 1.5–5 ล้านบาทขึ้นไป

ข้อดี / ข้อเสีย

ข้อดีข้อเสีย
ระบบที่จัดตั้งไว้อย่างมั่นคงช้า มีหลายขั้นตอนอุทธรณ์
การบังคับใช้แข็งแกร่งภาษาไทย เป็นทางการ
เหมาะกับคำเรียกร้องที่มีมูลค่าสูงพยานหลักฐานต่างประเทศ/ขั้นตอนราชการ

2) อนุญาโตตุลาการ (หากสัญญามีข้อกำหนด)

กฎเกณฑ์ที่ใช้บ่อย: THAC (ศูนย์อนุญาโตตุลาการประเทศไทย), TAI (สถาบันอนุญาโตตุลาการไทย), SIAC (หากเป็นสัญญานานาชาติ)

ระยะเวลา

  • ประมาณ 12–18 เดือนสำหรับคำตัดสินสุดท้าย (เร็วกว่าศาล)
  • มีพื้นฐานการอุทธรณ์/เพิกถอนจำกัด

ค่าใช้จ่าย

รายการประมาณการ
ค่าธรรมเนียมยื่น/บริหาร50,000 – 400,000 บาทขึ้นไป ขึ้นกับจำนวนค่าเสียหาย
ค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการ150,000 บาท – หลายล้านบาท
ค่าทนายความ500,000 บาทขึ้นไป ขึ้นกับความซับซ้อน
ค่าบริการแปล (หากจำเป็น)50,000–300,000 บาท

อนุญาโตตุลาการมักมีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าสูงกว่า แต่คาดการณ์ได้มากกว่าและเป็นความลับ

ข้อดี / ข้อเสีย

ข้อดีข้อเสีย
รวดเร็ว เป็นความลับค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย/การบริหารสูงกว่า
ผู้ตัดสินที่เชี่ยวชาญการอุทธรณ์จำกัด
บังคับใช้ระหว่างประเทศได้ (อนุสัญญานิวยอร์ก) 

การไกล่เกลี่ยในประเทศไทย

การไกล่เกลี่ยได้รับการสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นจากศาลไทยและสถาบันต่าง ๆ (THAC, TAI)

เมื่อใดควรใช้

  • ความสัมพันธ์ทางการค้าที่ต้องการรักษาไว้
  • ข้อพิพาทมูลค่าต่ำ/กลาง
  • ข้อพิพาทด้านคุณภาพที่สามารถประนีประนอมได้ (เช่น ซ่อมแซม ส่วนลด ทดแทน)

ค่าใช้จ่าย

  • การไกล่เกลี่ยเอกชน: 30,000 – 200,000 บาทขึ้นไป (ขึ้นกับระดับความชำนาญของผู้ไกล่เกลี่ย)
  • การไกล่เกลี่ยที่ศาลนำเข้ามาเกี่ยวข้อง: มักมีค่าใช้จ่ายต่ำหรือฟรีเมื่อดำเนินคดีแล้ว

โอกาสความสำเร็จ

  • การไกล่เกลี่ยสอดคล้องทางวัฒนธรรมกับแนวปฏิบัติทางธุรกิจของไทย; มักได้ผล

แนะนำ: ใช่ — ใช้ได้ก่อนยื่นฟ้อง

กลยุทธ์เชิงปฏิบัติที่แนะนำ

  1. ออกหนังสือเรียกร้องอย่างเป็นทางการ (ทั้งภาษาไทย + อังกฤษถ้าจำเป็น)
    • อ้างการละเมิด ร้องขอการแก้ไข/ค่าชดเชย กำหนดเวลา
  2. เสนอการไกล่เกลี่ย
  3. หากไม่สามารถแก้ไขได้:
    • ตรวจสอบข้อกำหนดข้อพิพาทในสัญญา (ศาล vs อนุญาโตตุลาการ)
    • ประเมินขนาดคำเรียกร้องเทียบกับต้นทุน/ความไวต่อเวลา
  4. ดำเนินการต่อด้วยอนุญาโตตุลาการหรือศาล
  5. พิจารณามาตรการชั่วคราว (พบได้ไม่บ่อยแต่เป็นไปได้) หากสินทรัพย์ตกอยู่ในความเสี่ยง

ข้อพิจารณาเพิ่มเติม

  • พยานหลักฐาน: เงื่อนไขการส่งมอบ รายงานทดสอบควบคุมคุณภาพ การสื่อสาร ใบสั่งซื้อ สัญญา
  • ข้อกำหนดค่าปรับตามสัญญา: ใช้บังคับได้หากสมเหตุสมผล (ตรวจสอบสัญญา)
  • ข้อกำหนดกฎหมายที่ใช้บังคับ: หากเลือกกฎหมายต่างประเทศ ศาลไทยยังคงใช้หลักนโยบายสาธารณะของไทย
  • ภาษา: เอกสารฟ้องศาลไทยต้องเป็นภาษาไทย; อนุญาโตตุลาการสามารถใช้สองภาษาได้
  • การบังคับใช้: ศาลไทยบังคับใช้ทั้งคำพิพากษาศาลและคำตัดสินอนุญาโตตุลาการ (อนุสัญญานิวยอร์ก)

สรุปหลักการโดยย่อ

ตัวเลือกเวลาค่าใช้จ่ายเหมาะเมื่อ
การไกล่เกลี่ย1–3 เดือน30,000–200,000 บาทต้องการรักษาความสัมพันธ์ / ผลลัพธ์รวดเร็ว
ศาลไทย12–24 เดือน (ศาลชั้นต้น)300,000–5 ล้านบาทขึ้นไปสัญญามาตรฐาน เน้นความคุ้มค่า
อนุญาโตตุลาการ12–18 เดือน500,000 บาทขึ้นไปมูลค่าสูง / ข้ามพรมแดน / เป็นความลับ

สรุปท้าย

  • ลองไกล่เกลี่ยก่อน — ต้นทุนต่ำ สอดคล้องวัฒนธรรม
  • ศาล ถูกกว่าแต่ช้ากว่าและอาจมีอุทธรณ์
  • อนุญาโตตุลาการ เร็วกว่าและคาดการณ์ได้มากกว่าทว่าราคาสูงกว่า

กรุณาติดต่อ GPS Legal ที่ [email protected] และอ้างอิงโพสต์นี้

GPS Legal

mohammad mehdi ghanbari

mohammad mehdi ghanbari

Nov 11, 2025

สวัสดี

ผมได้สรุปตัวเลือกที่มีอยู่ ระยะเวลาที่คาดว่าจะใช้ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้ท่านจัดการเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวเลือกการระงับข้อพิพาทในประเทศไทย
เมื่อเผชิญกับการผิดสัญญาในประเทศไทย ท่านมีช่องทางต่าง ๆ สำหรับการบังคับใช้สิทธิ โดยสามารถแบ่งเป็นวิธีระงับข้อพิพาททางเลือก (ADR) และการดำเนินคดีทางศาลอย่างเป็นทางการ​

การเจรจา: โดยทั่วไปจะเป็นขั้นตอนแรก และมักเป็นวิธีที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและได้ผลรวดเร็ว วัฒนธรรมธุรกิจไทยโดยทั่วไปรองรับแนวทางที่ไม่ใช่การเผชิญหน้า ซึ่งอาจทำให้การเจรจาตรง ๆ ประสบความสำเร็จได้​

การไกล่เกลี่ย: หากการเจรจาไม่สำเร็จ การไกล่เกลี่ยถือเป็นขั้นตอนต่อไปที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง บุคคลที่เป็นกลางจะช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้ได้ทางออกที่ทั้งสองฝ่ายยินยอม กระบวนการนี้เป็นไปโดยสมัครใจ เป็นความลับ และรวดเร็วและประหยัดกว่าการดำเนินคดีศาลอย่างมาก ศูนย์ไกล่เกลี่ยการค้าไทย (TCMC) ถือเป็นสถาบันหลักในเรื่องนี้​

อนุญาโตตุลาการ: เป็นกระบวนการที่เป็นทางการมากกว่าการไกล่เกลี่ย โดยอนุญาโตตุลาการจะตัดสินข้อพิพาทอย่างมีผลผูกพัน โดยทั่วไปจะรวดเร็ว ยืดหยุ่น และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าการพิจารณาคดีในศาล​

การดำเนินคดี: รวมถึงการฟ้องร้องในศาลไทย แม้ว่าจะเป็นทางเลือกที่ใช้ได้ แต่โดยทั่วไปถือเป็นเส้นทางที่ใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายมากที่สุด​

ระยะเวลาและค่าใช้จ่าย
ระยะเวลาและทรัพยากรทางการเงินที่ต้องใช้จะขึ้นอยู่กับเส้นทางที่ท่านเลือก:

การดำเนินคดี: คดีในศาลไทยอาจใช้เวลานาน การตัดสินในชั้นต้นโดยทั่วไปใช้เวลาระหว่าง 12 ถึง 18 เดือน และการอุทธรณ์อาจเพิ่มอีกหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น ค่าธรรมเนียมศาลโดยทั่วไปอยู่ที่ 2% ของจำนวนเงินที่เรียกร้องถึง 50 ล้านบาท โดยจะมีอัตราเพิ่มเติม 0.1% สำหรับจำนวนที่เกินกว่านั้น (สูงสุด 200,000 บาทต่อระดับศาล) ค่าทนายความอาจแตกต่างกัน โดยบางสำนักงานคิดค่าบริการประมาณ 8,000 บาทต่อชั่วโมง และค่าใช้จ่ายเริ่มต้นของคดีแพ่งอาจอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท​

อนุญาโตตุลาการและไกล่เกลี่ย: วิธีระงับข้อพิพาททางเลือกเหล่านี้โดยทั่วไปจะรวดเร็วและประหยัดกว่าเมื่อเทียบกับการดำเนินคดี แม้ว่าจะยังมีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมการบริหารและค่าทนายความ แต่มักจะต่ำกว่าค่าใช้จ่ายของการดำเนินคดีเต็มรูปแบบ​

ข้อแนะนำ: ไกล่เกลี่ยก่อนดำเนินการอย่างเป็นทางการ
พิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ผมขอแนะนำอย่างยิ่งให้พิจารณาการไกล่เกลี่ยก่อนที่จะเริ่มกระบวนการทางกฎหมายอย่างเป็นทางการ การไกล่เกลี่ยเป็นแนวทางที่ลดความขัดแย้งและสามารถช่วยรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ซึ่งอาจมีคุณค่าในระยะยาว รวมถึงเป็นเส้นทางที่รวดเร็วและประหยัดกว่า ช่วยให้ท่านหลีกเลี่ยงกระบวนการต่อสู้ทางศาลที่ยาวและมีค่าใช้จ่ายสูง​

หากท่านต้องการหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้และเจาะจงรายละเอียดของกรณีของท่าน ผมพร้อมให้คำปรึกษาผ่าน WhatsApp

ด้วยความเคารพ

WhatsApp:  +1 (769) 354 2813

SORASAK LAWFIRM

SORASAK LAWFIRM

Nov 12, 2025

 คุณมีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายจากการละเมิดสัญญา คู่สัญญามาส่งมอบล่าช้าและจัดส่งสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน/ข้อกำหนดที่ตกลงกันไว้ ทำให้เกิดความเสียหาย คุณสามารถเรียกร้องค่าเสียหายและดอกเบี้ยตามกฎหมาย และขอให้แก้ไขหรือเปลี่ยนสินค้า หากการละเมิดเป็นการละเมิดสำคัญ คุณยังสามารถบอกเลิกสัญญาตามกฎหมายที่ใช้อีกด้วย
    เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน เราขอแนะนำให้พยายามเจรจาหรือไกล่เกลี่ยกับคู่สัญญาเป็นลำดับแรก หากการไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จจึงดำเนินกระบวนการระงับข้อพิพาทที่เหมาะสมต่อไป
    การยื่นฟ้องในศาลหรือเริ่มดำเนินการอนุญาโตตุลาการขึ้นอยู่กับข้อกำหนดในสัญญา หากสัญญามีข้อกำหนดการอนุญาโตตุลาการที่ถูกต้องตามกฎหมายและยังมีผลบังคับอยู่ ข้อพิพาทควรถูกส่งไปยังการอนุญาโตตุลาการเป็นหลัก เว้นแต่คู่สัญญาจะตกลงกันเป็นอย่างอื่น หากไม่มีข้อกำหนดดังกล่าว หรืออีกฝ่ายปฏิเสธการอนุญาโตตุลาการ คุณสามารถยื่นคำฟ้องต่อศาลไทยได้
    ก่อนดำเนินการต่อไป เราแนะนำให้ส่งหนังสือแจ้งการละเมิดอย่างเป็นทางการโดยระบุ
การละเมิด ข้อเรียกร้องที่ต้องการ และกำหนดเวลาชัดเจนในการแก้ไข หนังสือนี้จะเป็นหลักฐานสนับสนุนคำเรียกร้องของคุณ
    สำนักงานของเรายินดีให้ความช่วยเหลือและบริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย คุณสามารถตอบกลับอีเมลฉบับนี้โดยตรง และเราจะจัดส่งใบเสนอราคาสำหรับพิจารณาให้แก่คุณ

โทรเลย ดูโปรไฟล์
ถามคำถามฟรี

ฟรี • ไม่ระบุตัวตน • ทนายความผู้เชี่ยวชาญ

ต้องการความช่วยเหลือทางกฎหมายส่วนบุคคล?

เชื่อมต่อกับทนายความที่มีประสบการณ์ในพื้นที่ของคุณเพื่อรับคำแนะนำส่วนบุคคลสำหรับสถานการณ์เฉพาะของคุณ

ไม่มีข้อผูกมัดในการจ้าง บริการฟรี 100%