1. About การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการ Law in Thailand
การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการในประเทศไทย หรือ Project Financing คือ โครงสร้างทางการเงินที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน หรือสาธารณูปโภค โดยใช้ SPV (Special Purpose Vehicle) เป็นนิติบุคคลที่รับผิดชอบโครงการเฉพาะด้าน การหาเงินทุนมักประกอบด้วยเงินทุนจากธนาคาร เงินลงทุนภาคเอกชน และการระดมทุนผ่านเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล
โครงสร้างนี้ช่วยแยกความเสี่ยงของโครงการออกจากธุรกิจหลักของผู้ลงทุน และมักมีการกระจายความเสี่ยงผ่านสัญญากันระหว่างภาครัฐ ผู้พัฒนา ผู้ให้เงินกู้ และผู้รับเหมา การพิจารณาเรื่องกฎหมาย การกำกับดูแล และข้อกำหนดด้านภาษีมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้ตามระเบียบและมีความยั่งยืนทางการเงิน
ประเด็นสำคัญที่ควรทราบ คือ ในประเทศไทยมีกรอบกฎหมายที่สนับสนุนการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดวิธีการประเมินโครงการ วิธีการประมูล และการจัดการสัญญาระหว่างคู่สัญญา
“Public-Private Partnership Act B.E. 2562 (2019) มุ่งสร้างกรอบการทำงานสำหรับกระบวนการ PPP ตั้งแต่การเลือกโครงการ การประมูล การจัดทำสัญญา และการบริหารความเสี่ยง”
เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและประยุกต์ใช้งานได้จริง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการเงินและสัญญาในบริบทไทย
แหล่งข้อมูลอ้างอิงทางการ: สำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุน (BOI) - บทบาทและแนวทางสนับสนุนการลงทุน
2. Why You May Need a Lawyer
ต่อไปนี้เป็นสถานการณ์เฉพาะเจาะจงในประเทศไทยที่ชี้ให้เห็นว่าควรมีทนายความที่เชี่ยวชาญด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการ:
- การต่อรองข้อเสนอการเงินและสัญญากู้ยืมระยะยาว เช่น เมื่อธนาคารและผู้ให้กู้ต่างแข่งขันกันเสนอเงื่อนไื่ยวในโครงการพลังงานหรือโครงสร้างพื้นฐาน ทนายความช่วยตรวจทาน term sheet และสัญญากู้เพื่อให้ความเสี่ยงถูกกระจายอย่างเป็นธรรม
- การจัดตั้ง SPV และโครงสร้างความรับผิดชอบทางภาษี เช่น การตั้ง บริษัทร่วมทุนเพื่อถือครองทรัพย์สินและการแบ่งสัดส่วนสิทธิประโยชน์-ความรับผิดชอบให้ชัดเจน
- การประมูลและสัญญาร่วมทุนภาครัฐ-เอกชน (PPP) เช่น กรอบกฎหมาย PPP และเงื่อนไขการลงนามในสัญญาโครงการใหญ่ที่มีเงื่อนไขการชำระเงินจากภาครัฐ
- การออกหลักทรัพย์หรือตราสารหนี้เพื่อระดมทุนโครงการ เช่น พันธบัตรหรือโครงสร้างหนี้อื่นๆ ที่ถูกควบคุมโดย ก.ล.ต. และข้อกำหนดการเผยแพร่ข้อมูล
- การทำ due diligence ด้านกฎหมายและสัญญา เมื่อซื้อขายบริษัทโครงการหรือรีไฟแนนซ์ เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนก่อนการปิดดีล
- การบริหารความเสี่ยงด้านกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย เช่น ความเสี่ยงจากการออกกฎหมายใหม่ที่อาจมีผลต่อสัญญาโครงการหรือเงื่อนไขเงินทุน
3. Local Laws Overview
ในประเทศไทย การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการมักต้องพิจารณากฎหมายหลายฉบับที่สอดคล้องกับกรอบ PPP และข้อบังคับทางการเงิน
- พระราชบัญญัติการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (Public-Private Partnership Act B.E. 2562) - กำหนดกรอบการคัดเลือกโครงการ การประมูล และการบริหารสัญญา PPP ควบคู่กับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- พระราชบัญญัตหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และแนวปฏิบัติที่ตามมา-กำกับการเสนอขายหลักทรัพย์และตราสารหนี้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ลงทุน
- พระราชบัญญัติควบคุมธุรกิจสถาบันการเงิน (Financial Institutions Business Act B.E. 2551) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธนาคารและสถาบันการเงินที่ทำหน้าที่ให้เงินทุนโครงการ
หมายเหตุเรื่องระยะเวลาบังคับใช้งาน กรอบ PPP ได้รับการออกในปี พ.ศ. 2562 พร้อมการปรับปรุงและแนวทางปฏิบัติที่ออกตามมาในปีถัดไป เพื่อสนับสนุนการลงทุนภาครัฐร่วมกับเอกชน
แหล่งข้อมูลอ้างอิงทางการ: ราชกิจจานุเบกษา - Krisdika และ BOI - Thailand Board of Investment
4. Frequently Asked Questions
ต่อไปนี้เป็นคำถามที่พบบ่อยในทางปฏิบัติ คำถามในภาษาอังกฤษเป็นตัวนำ และคำตอบโดยรวมอยู่ในภาษาไทยเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน
What is project financing in Thailand and how does it work?
Project financing คือโครงสร้างทางการเงินที่ใช้ SPV เป็นตัวกลางในการลงทุน โดยให้การชำระคืนเงินทุนจากกระแสรายได้ของโครงการเอง ไม่ใช่จากกระแสรายได้ของบริษัทแม่เสมอไป
How do Thai lenders assess a project finance proposal and risk?
ผู้ให้กู้วิเคราะห์ความสามารถในการจ่ายหนี้ ความเสี่ยงด้านการค้า ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ และความพร้อมของผู้พัฒนา รวมถึงประวัติการดำเนินงานและความมั่นคงของสัญญาส่งมอบ
When is a SPV required in Thai project finance?
SPV มักจำเป็นเมื่อโครงการมีความซับซ้อน ระมัดระวังด้านความรับผิดชอบ และต้องแยกทรัพย์สินทางการเงินออกจากธุรกิจหลักของผู้พัฒนา
Where can I find regulatory guidance for PPP contracts in Thailand?
คำแนะนำด้าน PPP มีในหลายแหล่ง เช่น กฎหมาย PPP และระเบียบที่เผยแพร่โดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และสามารถดูได้ในประกาศราชกิจจานุเบกษา
Why do we need a lawyer for PPP bidding and contract negotiation?
เพราะสัญญา PPP มีเงื่อนไขการชำระเงิน การแบ่งความเสี่ยง และข้อกำหนดด้านการตรวจสอบที่ซับซ้อน การมีทนายช่วยเจาะลึกข้อสัญญาช่วยลดความเสี่ยงในการบังคับใช้งานภายหลัง
Can a foreign investor participate in Thai project finance under Thai law?
ได้ โดยมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการถือหุ้น การสลับภาษี และการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ แต่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับและการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
Should I obtain bank comfort letters before signing term sheets in Thailand?
ควรมีเพื่อประกันความพร้อมของเงินทุนในระดับเบื้องต้น และช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ร่วมทุนในขั้นตอนต่อไป
Do I need to register the SPV in Thailand and with which authority?
โดยทั่วไป SPV ที่จะดำเนินโครงการในประเทศไทยควรจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย
Is a performance bond or letters of credit standard in Thai project financing?
ใช่ โดยทั่วไปจะมีการใช้ performance bond หรือ letters of credit เพื่อค้ำประกันการส่งมอบโครงสร้างและการชำระเงินตามสัญญา
What is the typical timeline from project appraisal to funding in Thailand?
โดยทั่วไปโครงสร้าง PPP หรือโครงการใหญ่ใช้ระยะเวลาประมาณ 12-24 เดือน ตั้งแต่การประเมินโครงการจนถึงการปิดดีลและเริ่มระดมทุน
How much does a Thai project financing lawyer typically cost?
ค่าบริการขึ้นอยู่กับขอบเขตงานและความซับซ้อน แต่โดยทั่วไปจะคิดเป็นค่าเฟ้าหรือตามชั่วโมง พร้อมกับค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบเอกสาร
What are the key documents required for a Thai project finance loan?
สัญญากู้ยืม สำเนา SPV และโครงสร้างผู้ถือหุ้น รายงาน due diligence สัญญาโครงการ แผนการเงิน และเอกสารภาษีที่เกี่ยวข้อง
What is the difference between project finance and corporate financing?
Project finance มุ่งเน้นโครงการเฉพาะตัวและกระแสรายได้โครงการเป็นหลัก ในขณะที่ corporate financing อิงรายได้รวมขององค์กรและโครงสร้างบริษัท
5. Additional Resources
ด้านล่างเป็นแหล่งข้อมูลทางกฎหมายและการลงทุนที่มีบทบาทสำคัญในประเทศไทย
- BOI Thailand - แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์การลงทุนและกรอบการสนับสนุนโครงการลงทุน https://www.boi.go.th
- SEC Thailand - กฎระเบียบและนโยบายการออกและเสนอขายหลักทรัพย์รวมถึงตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการทุนระดมทุน https://www.sec.or.th
- Krisdika (ราชกิจจานุเบกษา) - ข้อกฎหมายและประกาศราชกิจจานุเบกษาที่เกี่ยวข้องกับ PPP และการจัดตั้งนิติบุคคล https://www.krisdika.go.th
หมายเหตุ: แหล่งข้อมูลข้างต้นให้แนวทางการปฏิบัติ และควรตรวจสอบข้อบทล่าสุดในราชกิจจานุเบกษาและประกาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
6. Next Steps
- กำหนดขอบเขตโครงการของคุณ ชัดเจนว่าเป็นโครงสร้าง PPP หรือโครงการเอกชน ปรับรายละเอียดรายได้ และความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- รวบรวมเอกสารเบื้องต้น เช่น รายงานทางการเงิน โครงร่างสัญญา ความต้องการรับประกัน และเอกสารองค์กร
- หาทีมกฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านการเงินโครงการในประเทศไทย ตรวจสอบประสบการณ์ด้าน PPP, สัญญากู้, และการระดมทุนจากตราสารหนี้
- ทำการประเมินความเหมาะสมทางกฎหมาย ให้ทนายตรวจทานข้อกำหนดสัญญา ระเบียบ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- ยื่นคำปรึกษาเบื้องต้น นัดพบเพื่อประเมินค่าใช้จ่ายและแนวทางดำเนินการต่อ
- จัดทำร่างสัญญาและเอกสารประกอบ ให้ครอบคลุมเงื่อนไขการชำระเงิน ความรับผิดชอบ และข้อกำหนดการบังคับใช้
- ดำเนินการชุด due diligence และปิดดีล ตรวจสอบสัญญา เสียภาษี การระดมทุน และการอนุมัติจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
Lawzana ช่วยคุณค้นหาทนายความและสำนักงานกฎหมายที่ดีที่สุด ใน Thailand ผ่านรายชื่อผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่คัดสรรและตรวจสอบล่วงหน้า แพลตฟอร์มของเรานำเสนอการจัดอันดับและโปรไฟล์โดยละเอียดของทนายความและสำนักงานกฎหมาย ช่วยให้คุณเปรียบเทียบตามสาขากฎหมาย , including การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการ ประสบการณ์ และความคิดเห็นของลูกค้า
แต่ละโปรไฟล์ประกอบด้วยคำอธิบายเกี่ยวกับสาขากฎหมายของสำนักงาน รีวิวจากลูกค้า สมาชิกในทีมและหุ้นส่วน ปีที่ก่อตั้ง ภาษาที่พูด ที่ตั้งสำนักงาน ข้อมูลการติดต่อ การมีตัวตนบนโซเชียลมีเดีย และบทความหรือแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่ สำนักงานส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์มของเราพูดภาษาอังกฤษและมีประสบการณ์ทั้งในเรื่องกฎหมายท้องถิ่นและระหว่างประเทศ
ขอใบเสนอราคาจากสำนักงานกฎหมายชั้นนำ ใน Thailand — รวดเร็ว ปลอดภัย และไม่ยุ่งยาก
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
ข้อมูลที่ให้ไว้ในหน้านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย แม้ว่าเราจะพยายามตรวจสอบความถูกต้องและความเกี่ยวข้องของเนื้อหา แต่ข้อมูลทางกฎหมายอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา และการตีความกฎหมายอาจแตกต่างกันไป คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะสำหรับสถานการณ์ของคุณเสมอ
เราปฏิเสธความรับผิดทั้งหมดสำหรับการกระทำที่ทำหรือไม่ทำตามเนื้อหาในหน้านี้ หากคุณเชื่อว่าข้อมูลใดไม่ถูกต้องหรือล้าสมัย โปรด contact us และเราจะตรวจสอบและแก้ไขตามความเหมาะสม