ค้นหาคู่มือกฎหมายและแหล่งข้อมูล

ค้นหาคู่มือกฎหมายและแหล่งข้อมูลจากทนายความผู้เชี่ยวชาญ

22 articles found

ฟื้นฟูกิจการ SME ในไทย: ทางเลือกก่อนยื่นล้มละลาย จุดประสงค์การค้นหา: Know + Do (ต้องการเข้าใจทางเลือกและเริ่มลงมือเจรจา/เตรียมเอกสาร) กลุ่มเป้าหมาย: ผู้ประกอบการ / ผู้บริหาร SME (B2B) ที่มีปัญหาสภาพคล่อง และต้องการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือฟื้นฟูกิจการมากกว่าปิดกิจการ "ปรับโครงสร้างหนี้" สามารถทำได้ทั้งแบบเจรจานอกศาลและผ่านกระบวนการฟื้นฟูกิจการในศาล ต่างจาก "ล้มละลาย" ซึ่งเน้นการรวบรวมและจำหน่ายทรัพย์มาชำระหนี้ SME ที่มีหนี้จากการประกอบธุรกิจและมีช่องทางฟื้นฟู สามารถยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย ไม่จำเป็นต้องรอถูกฟ้องล้มละลายก่อน การเตรียมเอกสารการเงินและเอกสารนิติบุคคลครบถ้วน เป็นหัวใจสำคัญให้ทนายและที่ปรึกษาวางแผนเจรจาหนี้และจัดทำแผนฟื้นฟูที่น่าเชื่อถือ ศาลล้มละลายกลาง ผู้ทำแผน...

หากได้รับหนังสือสอบสวนหรือถูก "บุกตรวจ" (dawn raid) ภายใต้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า นายจ้างและผู้บริหารต้องตอบสนองทันที จัดทีมกฎหมายภายใน-ภายนอก และหยุดทำลาย/ลบข้อมูลทุกชนิด หน่วยงานหลักคือคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) และสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สำนักงาน กขค.) ซึ่งมีอำนาจเรียกเอกสาร สอบสวน ลงโทษทางปกครอง และส่งสำนวนให้พนักงานอัยการดำเนินคดีอาญาได้ บริษัทและพยานมีสิทธิสำคัญ เช่น สิทธิให้ทนายความร่วมฟังการสอบสวน สิทธิขอสำเนาคำให้การ สิทธิขอปิดบังความลับทางการค้า และสิทธิอุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อศาลที่มีเขตอำนาจ การเตรียมข้อมูลอย่างมีระบบ การสื่อสารภายใน-ภายนอกอย่างรอบคอบ และการกำหนดจุดยืนเชิงกลยุทธ์ (จะต่อสู้หรือเจรจา) มีผลโดยตรงต่อความเสี่ยงค่าปรับ ชื่อเสียง และความต่อเนื่องทางธุรกิจ...

สัญญาธุรกิจในไทยที่รัดกุมควรครอบคลุม "ใคร-ทำอะไร-เมื่อไหร่-อย่างไร-และถ้ามีปัญหาแล้วจะทำอย่างไร" ให้ชัดเจนในทุกข้อ เงื่อนไขการชำระเงิน การค้ำประกัน และการประกันความรับผิด คือหัวใจสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงด้านกระแสเงินสดและหนี้เสียสำหรับธุรกิจ ข้อกำหนดการสิ้นสุดสัญญา (termination) และค่าปรับ ต้องเขียนให้ชัดว่าใครยกเลิกได้เมื่อใด อย่างไร และผลทางการเงินคืออะไร การเลือกกฎหมายที่ใช้บังคับและเขตอำนาจศาลมีผลต่อ "โอกาสชนะคดี-ระยะเวลา-ค่าใช้จ่าย" หากมีคู่สัญญาต่างชาติหรือธุรกรรมข้ามพรมแดน การใช้เช็คลิสต์ตรวจสัญญาก่อนลงนามช่วยให้ธุรกิจ SMEs และสตาร์ทอัพลดช่องโหว่ที่มักถูกมองข้าม เช่น เงื่อนไขเปลี่ยนราคา การไม่แข่งขัน และการรักษาความลับ สำหรับสัญญาที่มีมูลค่าสูง ความซับซ้อน หรือคู่สัญญาต่างชาติ การให้ทนายความช่วยร่าง/รีวิวสัญญาในกฎหมายไทยมักมีต้นทุนต่ำกว่าค่าความเสียหายจากข้อพิพาทในอนาคต ร่างสัญญาธุรกิจในไทยคืออะไร และทำไมจึงสำคัญต่อการป้องกันความเสี่ยง? ร่างสัญญาธุรกิจในไทยคือการกำหนดข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างคู่สัญญา...

ธุรกิจไทยที่ส่งออกหรือทำธุรกรรมข้ามชาติต้องคำนึงถึงทั้งกฎหมายไทย (WMD / Dual-use, ศุลกากร, ป้องกันฟอกเงิน) และมาตรการคว่ำบาตรของต่างประเทศที่อาจมีผลทางอ้อมผ่านธนาคารและคู่ค้า การทำ KYC และคัดกรองคู่ค้าระหว่างประเทศอย่างเป็นระบบ เป็นด่านแรกที่จะช่วยลดความเสี่ยงการทำธุรกรรมกับบุคคลหรือประเทศที่ถูกคว่ำบาตร สินค้าหลายประเภท โดยเฉพาะสินค้าใช้ได้สองทาง (Dual-use) และเทคโนโลยีขั้นสูง กำลังถูกควบคุมเข้มขึ้น ธุรกิจต้องรู้วิธีตรวจสอบรายการควบคุมและขอใบอนุญาตส่งออก บทลงโทษจากการฝ่าฝืนทั้งในไทยและต่างประเทศอาจรุนแรงถึงขั้นค่าปรับมหาศาล ปิดบัญชีธนาคาร ระงับสิทธิส่งออก หรือโทษอาญาต่อกรรมการ การมีนโยบาย Compliance ภายใน อบรมพนักงาน และมีแผนรับมือเมื่อพบเหตุสงสัย จะช่วยลดความเสียหายและช่วยให้สื่อสารกับหน่วยงานรัฐ/ธนาคารได้อย่างน่าเชื่อถือ เมื่อมีความซับซ้อนสูง เช่น สินค้า...

การโต้แย้งคำวินิจฉัยภาษีในไทยมีสองชั้นหลัก คือ การทบทวนภายในกรมสรรพากร (อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์) และการยื่นฟ้อง/อุทธรณ์ต่อศาลภาษีอากรและศาลสูง กำหนดเวลาสำคัญส่วนใหญ่คือ 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน หรือได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หากเลยกำหนดมักเสียสิทธิ ต้องขอขยายเวลาแบบมีเหตุผลรองรับ เอกสารสำคัญประกอบการอุทธรณ์ ได้แก่ หนังสือแจ้งการประเมินภาษี เอกสารยืนยันตัวผู้เสียภาษี หลักฐานทางบัญชี/ภาษี และเอกสารประกอบข้อโต้แย้งที่ชัดเจน กลยุทธ์ที่ดีต้องแยก "ข้อเท็จจริง" กับ "ข้อกฎหมาย" ออกจากกัน เขียนข้อโต้แย้งเป็นประเด็น ๆ พร้อมพยานหลักฐานและแนวคำพิพากษา/แนวนโยบายที่สนับสนุน คดีที่วงเงินภาษีสูง กระทบกระแสเงินสด หรือมีประเด็นกฎหมายซับซ้อน ควรมีทนายภาษีที่เชี่ยวชาญร่วมวางแผนตั้งแต่ชั้นอุทธรณ์กรมสรรพากร ไม่ใช่รอถึงศาล...

การถูกสอบสวนภายใต้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าในไทยมักเริ่มจากการตรวจสอบเบื้องต้นของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) และสามารถลุกลามไปสู่คดีโทษปรับมหาศาลได้หากจัดการไม่ดี ธุรกิจมีสิทธิสำคัญ เช่น สิทธิขอทราบข้อกล่าวหา สิทธิให้ทนายความเข้าร่วม และสิทธิไม่ต้องมอบข้อมูลที่เป็นความลับระหว่างทนาย-ลูกความ แต่ต้องไม่ให้ข้อมูลเท็จ การเตรียมเอกสารภายในอย่างเป็นระบบ การเก็บหลักฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (compliance) และการสื่อสารภายในที่รอบคอบ จะช่วยลดความเสียหายทั้งด้านกฎหมายและภาพลักษณ์ กลยุทธ์ตอบโต้ควรครอบคลุมทั้งมุมกฎหมาย ธุรกิจ และการสื่อสารสาธารณะ โดยมี "ทีมตอบสนองต่อการสอบสวน" ผสมผสานผู้บริหาร ฝ่ายกฎหมาย และ PR การมีโปรแกรมแข่งขันอย่างเป็นธรรม (competition compliance program) ล่วงหน้า เช่น การอบรมพนักงาน...

ฟื้นฟูกิจการ SME ในไทย: ทางเลือกก่อนยื่นล้มละลาย การ "ปรับโครงสร้างหนี้" เป็นการเจรจาตกลงใหม่กับเจ้าหนี้เพื่อให้ธุรกิจเดินต่อได้ ส่วน "ล้มละลาย" คือการชำระบัญชีทรัพย์สินเมื่อธุรกิจไปต่อไม่ได้แล้ว SME ควรเริ่มพูดคุยกับเจ้าหนี้และวางแผนฟื้นฟูทันทีที่เห็นสัญญาณสภาพคล่องตึงตัว อย่ารอให้ถูกฟ้องล้มละลายก่อน การเตรียมเอกสารการเงินและสัญญาต่าง ๆ อย่างเป็นระบบจะช่วยให้ทนายความและที่ปรึกษาฟื้นฟูประเมินทางเลือกและเจรจาได้มีน้ำหนัก ศาลล้มละลายกลางและผู้ทำแผนฟื้นฟูมีบทบาทสำคัญ หากเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมาย แต่ SME ส่วนมากควรเริ่มจากการฟื้นฟูแบบ "นอกศาล" ก่อน ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและรักษาการดำเนินธุรกิจได้ หากวางแผนกระแสเงินสด ปรับโครงสร้างค่าใช้จ่าย และเจรจาเงื่อนไขหนี้อย่างรอบคอบ จุดประสงค์ของบทความนี้คือช่วยเจ้าของกิจการและผู้บริหาร SME เข้าใจทางเลือก...

ในไทย โครงสร้าง Private Equity มักใช้กองทุนต่างประเทศ + บริษัทโฮลดิ้ง/SPV แบบบริษัทจำกัดไทย ร่วมกับ private fund หรือ trust ที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต. ข้อจำกัดการถือหุ้นต่างชาติภายใต้พระราชบัญญัติประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวและกฎหมายที่ดิน ส่งผลโดยตรงต่อการออกแบบสัดส่วนหุ้น สิทธิออกเสียง และการถือครองที่ดินของพอร์ตโฟลิโอบริษัทไทย ดีล PE ที่เกี่ยวข้องกับกิจการภายใต้การกำกับ (เช่น สถาบันการเงิน หลักทรัพย์ กองทุน) หรือบริษัทมหาชน/จดทะเบียน ต้องปฏิบัติตามกฎการเปิดเผยข้อมูล กฎเทนเดอร์ออฟเฟอร์ และกฎของ...

กรรมการบริษัทในไทยมีหน้าที่ทางกฎหมายชัดเจน ทั้งหน้าที่ใช้ความระมัดระวัง ซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติตามกฎหมาย/ข้อบังคับ หากละเมิดอาจถูกฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญา ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (conflict of interest) เป็นจุดเสี่ยงหลักของกรรมการ โดยเฉพาะธุรกรรมกับตนเอง/บุคคลที่เกี่ยวโยง หากไม่เปิดเผยและไม่เว้นว่างจากการลงมติอาจนำไปสู่คดีได้ คำพิพากษาศาลฎีกาหลายคดีชี้ชัดว่ากรรมการที่ลงมือหรือปล่อยปละละเลยจนบริษัทเสียหาย ต้องรับผิดชดใช้ และในบริษัทมหาชน/จดทะเบียนอาจมีโทษอาญาเพิ่มเติม การมีนโยบายคณะกรรมการที่ชัดเจน ระบบกำกับดูแลภายในที่ดี และประกันความรับผิดของกรรมการและผู้บริหาร (D&O insurance) ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีนัยสำคัญ แนวทางป้องกันที่ได้ผลมักรวมถึง: การบันทึกมติอย่างละเอียด การจัดการ conflict of interest ตามมาตรฐาน ก.ล.ต./ตลาดหลักทรัพย์ และการขอคำปรึกษาทางกฎหมายอย่างสม่ำเสมอ...

การมี "นโยบายไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานภายใน" ที่ชัดเจน ช่วยลดโอกาสถูกฟ้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ หรือศาลแรงงานได้อย่างมาก ผู้ไกล่เกลี่ยภายในควรมีความเป็นกลาง ได้รับการอบรมด้านกฎหมายแรงงานไทยและทักษะการเจรจา ไม่ควรเป็นหัวหน้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยตรงในกรณีพิพาท กระบวนการที่ดีต้องมีขั้นตอนชัดเจน: รับเรื่อง-คัดกรอง-สืบข้อเท็จจริง-นัดไกล่เกลี่ย-ทำบันทึกข้อตกลง-ติดตามผล พร้อมการเก็บหลักฐานอย่างรัดกุม ต้องรู้ "จุดที่ควรหยุดไกล่เกลี่ย" และส่งต่อไปยังหน่วยงานรัฐ เช่น พนักงานตรวจแรงงาน คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ หรือศาลแรงงาน หากคดีมีความเสี่ยงสูงหรือฝ่ายใดละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย หากออกแบบและใช้ไกล่เกลี่ยภายในอย่างถูกวิธี บริษัทจะลดค่าใช้จ่ายข้อพิพาทอย่างมาก รักษาความสัมพันธ์กับพนักงาน และลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานภายในองค์กรคืออะไร และสำคัญอย่างไรในบริบทไทย ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานภายในองค์กร คือ กระบวนการที่บริษัทตั้งขึ้นเองเพื่อช่วยให้ลูกจ้างและนายจ้างหรือหัวหน้างานสามารถเจรจาแก้ไขข้อพิพาทผ่านบุคคลกลางที่เป็นกลาง ก่อนที่จะลุกลามไปสู่การร้องเรียนต่อหน่วยงานรัฐหรือฟ้องต่อศาลแรงงาน....

การโต้แย้งคำประเมิน/คำวินิจฉัยภาษีในไทยมี 2 ชั้นหลัก คือ การอุทธรณ์ภายในกรมสรรพากร (ชั้นปกครอง) และการฟ้องต่อศาลภาษีอากร (ชั้นศาล) ซึ่งมีขั้นตอนและรูปแบบเอกสารต่างกันอย่างชัดเจน(rd.go.th) กำหนดเวลาสำคัญที่สุดคือ 30 วันนับแต่วันที่ "ได้รับ" หนังสือแจ้งการประเมิน เพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และ 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำวินิจฉัยอุทธรณ์เพื่อฟ้องศาลภาษีอากร หากพลาดกำหนดเวลา สิทธิจะหายไปเกือบทั้งหมด(rd.go.th) เอกสารสำคัญประกอบคำอุทธรณ์ ได้แก่ หนังสือแจ้งประเมิน แบบคำอุทธรณ์ (เช่น ภ.ส.6) งบการเงิน รายงานบัญชี ใบกำกับภาษี สัญญา...

การปฏิบัติตามข้อบังคับส่งออกและคว่ำบาตรสำหรับธุรกิจไทย จุดประสงค์การค้นหา: เข้าใจ (Know) + ลงมือทำ (Do) - สำหรับผู้บริหาร/ฝ่ายกฎหมาย/ฝ่ายส่งออกที่ต้องการตั้งระบบ Compliance จริงจัง กลุ่มเป้าหมาย: B2B - บริษัทไทยที่ส่งออกสินค้า เทคโนโลยี หรือทำธุรกรรมระหว่างประเทศ (รวมถึงซัพพลายเออร์ในห่วงโซ่ของบริษัทข้ามชาติ) ธุรกิจไทยต้องปฏิบัติตามทั้งกฎหมายไทย (เช่น กฎหมายควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และกฎหมายฟอกเงิน) และข้อจำกัด/คว่ำบาตรของต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้า การตรวจสอบคู่ค้า (KYC/Customer Due Diligence) และการคัดกรองรายชื่อคว่ำบาตร เป็นแนวปฏิบัติพื้นฐานที่ควรทำก่อนรับลูกค้าและทุกครั้งที่มีดีลเสี่ยงสูง สินค้าบางประเภท...

การนำเข้าอาหารเสริมและเครื่องสำอางเพื่อ "จำหน่าย" ในไทย ต้องมีใบอนุญาตสถานที่ + การขึ้นทะเบียน/จดแจ้งผลิตภัณฑ์ + ใบอนุญาตนำเข้าเป็นราย shipment (LPI) ก่อนสินค้าเข้าประเทศ การจำแนกผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้องตั้งแต่แรก (อาหารเสริม vs ยา vs เครื่องสำอาง) กำหนดทั้งขั้นตอนเอกสาร ระยะเวลา ค่าใช้จ่าย และระดับความเสี่ยงทางกฎหมาย ฉลากและการโฆษณาเป็นจุดเสี่ยงสูง: เคลมเกินจริงหรือแฝงลักษณะ "ยา" มีโอกาสถูกเรียกเก็บตัวอย่าง ระงับโฆษณา หรือสั่งถอนสินค้า เมื่อถูกสุ่มตรวจหรือรับหนังสือแจ้งเตือนจาก อย. ผู้ประกอบการต้องตอบกลับอย่างเป็นระบบ...

สัญญาธุรกิจในไทยที่ดีควรระบุคู่สัญญา ขอบเขตงาน ราคา/การชำระเงิน ระยะเวลา ความรับผิด และวิธีระงับข้อพิพาทให้ชัด เพื่อให้บังคับได้จริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เงื่อนไขการชำระเงิน การค้ำประกัน และการประกันความรับผิดเป็นหัวใจของการบริหารกระแสเงินสดและลดความเสี่ยงการเบี้ยวหนี้ โดยเฉพาะเมื่อดอกเบี้ยผิดนัดตามกฎหมายปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปีหากไม่ได้ตกลงเป็นอย่างอื่น ข้อกำหนดการสิ้นสุดสัญญาและค่าปรับ/ค่าเสียหายล่วงหน้าต้องเขียนอย่างสมเหตุสมผล มิฉะนั้นศาลไทยสามารถลดค่าปรับที่สูงเกินไปได้ และบางกรณีอาจถูกมองว่าเป็น "ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม" โดยเฉพาะเมื่อคู่สัญญาเป็นผู้บริโภค ในสัญญาที่มีต่างชาติหรือมีองค์ประกอบข้ามพรมแดน การเลือกกฎหมายที่ใช้บังคับและเขตอำนาจศาล รวมถึงการกำหนดให้ใช้อนุญาโตตุลาการ มีผลอย่างมากต่อค่าใช้จ่ายและโอกาสบังคับคดี การใช้เช็คลิสต์ตรวจสัญญาก่อนลงนามช่วยลดช่องโหว่ เช่น ภาษาในสัญญาไม่ตรงกับการปฏิบัติจริง ไม่มีข้อจำกัดความรับผิด หรือไม่ได้ตรวจว่าข้อสัญญาขัดกับกฎหมายเฉพาะหรือไม่ เมื่อธุรกรรมมีมูลค่าสูง มีหลายภาษา หรือมีเงื่อนไขซับซ้อน...

กรรมการบริษัทในไทยมีความรับผิดทั้งทางแพ่ง อาญา และทางปกครอง หากฝ่าฝืนหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด และ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ มาตรา 1168 ป.พ.พ. และมาตรา 89/7 พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ กำหนดให้กรรมการต้องใช้ความระมัดระวังและความซื่อสัตย์สุจริตในระดับ "วิญญูชนผู้ประกอบธุรกิจ" มิใช่เพียงคนธรรมดาทั่วไป ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (conflict of interest) และรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน เป็นจุดเสี่ยงสำคัญที่มักนำไปสู่การถูกฟ้องร้องหรือถูกลงโทษจากหน่วยงานกำกับ คำพิพากษาศาลฎีกาและคดีที่ ก.ล.ต. ดำเนินการ แสดงให้เห็นว่ากรรมการสามารถถูกจำคุก ถูกปรับสูง และถูกเพิกถอนสิทธิการเป็นกรรมการ/ผู้บริหารเป็นเวลาหลายปี นโยบายคณะกรรมการที่ชัดเจน ระบบกำกับดูแลที่ดี...

ดีล Private Equity (PE) ในไทยนิยมใช้โครงสร้างหลายแบบ เช่น บริษัทร่วมลงทุน (SPV), private fund ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ และ Private Equity Trust ภายใต้กฎหมายทรัสต์ เพื่อให้เหมาะกับประเภทนักลงทุนและข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ นักลงทุนต่างชาติต้องระวังข้อจำกัดภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (Foreign Business Act) ข้อห้ามถือครองที่ดิน และกฎควบคุมเงินตราต่างประเทศ ซึ่งกระทบต่อสัดส่วนถือหุ้นและโครงสร้างดีล กองทุนและโครงสร้าง PE ที่อยู่ภายใต้สำนักงาน ก.ล.ต....

ดีล Private Equity ในไทยมักใช้โครงสร้างบริษัทจำกัดและโฮลดิ้งคอมพานี (ทั้ง onshore และ offshore) ผสมกับกองทุน/ยานพาหนะลงทุนที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต. สำหรับนักลงทุนสถาบันและ HNW ข้อจำกัดต่างชาติภายใต้พระราชบัญญัติธุรกิจของคนต่างด้าว (FBA) และกฎหมายที่ดิน เป็นตัวกำหนดว่าสัดส่วนหุ้น/สิทธิออกเสียงของนักลงทุนต่างชาติจะวางอย่างไร การระดมทุนจากนักลงทุนไทยต้องพิจารณากฎของ ก.ล.ต. เรื่องนักลงทุนสถาบัน, HNW/UHNW และข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลที่แตกต่างจากการระดมทุนจากนักลงทุนทั่วไป ดีล PE ที่รัดกุมต้องมีการทำ Legal/Tax Due Diligence เชิงลึก ร่วมกับการกำหนดเงื่อนไขใน SPA...

การนำเข้าอาหารเสริมและเครื่องสำอางในไทยอยู่ภายใต้กฎหมายหลัก 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 โดยมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลหลัก จุดชี้เป็นชี้ตายของธุรกิจคือ "การจำแนกประเภทผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง" (อาหารเสริม ยา หรือเครื่องสำอาง) เพราะกำหนดขั้นตอน เอกสาร ระยะเวลา และความเสี่ยงทางกฎหมายที่แตกต่างกัน อาหารเสริมนำเข้าโดยทั่วไปต้องขออนุญาตสถานที่นำเข้า + ขอเลข อย. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส่วนเครื่องสำอางต้องขออนุญาตสถานที่นำเข้า + จดแจ้งเครื่องสำอางก่อนนำเข้าและจำหน่าย...

กรรมการบริษัทในไทยมีหน้าที่ตามกฎหมายทั้งด้าน "ความระมัดระวังอย่างผู้ประกอบธุรกิจที่รอบคอบ" และ "ความซื่อสัตย์สุจริตต่อผลประโยชน์ของบริษัท" หากละเลยอาจต้องรับผิดทางแพ่งและอาญาส่วนตัว ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (conflict of interest) เช่น ทำธุรกิจแข่งกับบริษัท หรือทำรายการกับกิจการของตนเอง โดยไม่ได้รับอนุมัติอย่างถูกต้อง เป็นจุดเสี่ยงสำคัญที่ศาลและหน่วยงานกำกับเพ่งเล็ง คำพิพากษาศาลฎีกาหลายคดีชี้ชัดว่า กรรมการไม่สามารถอ้าง "ไม่รู้เรื่อง" หากตามวิสัยของกรรมการที่รอบคอบ "ควรต้องรู้และต้องจัดการป้องกัน" อีกทั้งการเป็นเพียง "กรรมการชื่อ" ก็อาจไม่ช่วยลดความเสี่ยง บริษัทควรมีกฎบัตรคณะกรรมการ นโยบายเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ระบบกำกับดูแล และพิจารณาทำประกันความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่ (D&O insurance) เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยง การป้องกันที่ดีที่สุดคือ...

ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานภายในองค์กรในไทย: ขั้นตอนและเทคนิคปฏิบัติ การตั้ง "นโยบายไกล่เกลี่ยภายในองค์กร" ที่ชัดเจนและเป็นลายลักษณ์อักษร ช่วยลดความเสี่ยงการฟ้องร้องแรงงานและสร้างความเชื่อมั่นให้พนักงาน กระบวนการที่ดีต้องมีโครงขั้นตอนตั้งแต่รับเรื่อง สืบข้อเท็จจริง นัดไกล่เกลี่ย ทำบันทึกข้อตกลง และติดตามผล พร้อมเก็บหลักฐานอย่างเป็นระบบ ผู้ไกล่เกลี่ยภายในควรมีความเป็นกลาง ได้รับการอบรมทักษะการเจรจา และไม่อยู่ในสายบังคับบัญชาตรงของคู่กรณี ควรหยุดไกล่เกลี่ยและเข้าสู่กลไกภายนอก (กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ศาลแรงงาน ฯลฯ) เมื่อมีประเด็นสิทธิขั้นพื้นฐาน การคุกคาม หรือคู่กรณีขาดความสมัครใจอย่างชัดเจน ไกล่เกลี่ยภายในหากออกแบบดี สามารถประหยัดต้นทุน (เงิน เวลา ทรัพยากรผู้บริหาร) และช่วยให้ธุรกิจเดินต่อได้โดยไม่เสียขวัญกำลังใจของทีมงาน บทความนี้เน้นกลุ่มผู้อ่านฝั่งนายจ้าง HR...